Home LPN อสังหาฯหันเจาะลูกค้ากลาง-บนเน้น แนวราบ
อสังหาฯหันเจาะลูกค้ากลาง-บนเน้น แนวราบ
By Unknown At 11:19 0
ผู้ประกอบการอสังหาฯ ย้ำกำลังซื้อกลุ่มล่างยังมี แต่แบงก์ไม่ปล่อยสินเชื่อ "แอลพีเอ็น"เผยยอดปฎิเสธสูงกว่า 30% ต้องหันมาเน้นตลาดกลาง-บนราคา 2-3 ล้านขึ้น พร้อมเปลี่ยนกลุ่มมาเน้นแนวราบ"บ้านเดี่ยว-ทาวเฮ้าส์" ขณะ "แผ่นดินทอง พร็อพเพอร์ตี้"ชี้ตลาด คอนโดซบเซา หลายค่ายหันเจาะตลาด บ้านเดี่ยว ปลุกแข่งขันรุนแรง
นายโอภาส ศรีพยัคฆ์ กรรมการ ผู้จัดการ บริษัท แอล.พี.เอ็น.ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ LPN กล่าวว่า กำลังซื้อกลุ่มคอนโดมิเนียมระดับกลาง-ล่างไม่ได้หายไป แต่ปัญหาที่ทำให้อาคารชุด (คอนโดมิเนียม) ในกลุ่มดังกล่าวขายไม่ได้ เพราะสถาบันการเงินเข้มงวดปล่อยสินเชื่อ
"จริงๆต้องบอกว่า โครงการยังขายได้ กำลังซื้อมีเข้ามาตลอดไม่ได้ปรับลดลง แต่ปัญหาที่เราพบคือ เราไม่สามารถโอนคอนโดมิเนียมให้กับลูกค้าได้ เพราะธนาคารไม่ยอมปล่อยกู้ให้"
ทั้งนี้ผลดังกล่าวทำให้อัตราการ ปฏิเสธสินเชื่อของบริษัทสูงกว่า 30 % ซึ่ง อยู่ในระดับทรงตัวจากปีก่อน และไม่มี แนวโน้มว่าจะดีขึ้น ปัจจุบันบริษัทอยู่ ระหว่างการศึกษาว่าจะแก้ปัญหาเรื่องนี้ อย่างไร ยอมรับว่าที่ผ่านมามีแนวคิดจะ ปล่อยกู้ให้กับลูกค้าเอง แต่ก็ติดขัดบางอย่าง ทำให้ไม่สามารถดำเนินการได้ ผลของ การปฏิเสธสินเชื่อในระดับสูง ทำให้บริษัท มีสต็อกคงค้างจำนวนมาก บริษัทจึงปรับตัว ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา โดยลดเปิดโครงการใหม่ และขายโครงการที่มีอยู่เดิม
อย่างไรก็ตาม กลยุทธ์ในระยะสั้น สิ่งที่บริษัททำคือเน้นตลาดในกลุ่มกลาง ถึงบนมากขึ้น โดยจะเน้นโครงการระดับ 2-3 ล้านบาท ซึ่งบริษัทได้ปรับลดมาก่อนหน้านี้ และในขณะเดียวกันก็จะหันไปจับตลาดบ้านเดี่ยวและทาวเฮ้าส์ ที่ใช้ระยะเวลาการขายและก่อสร้างน้อยกว่า ทั้งนี้ในช่วงไตรมาสที่ 3 บริษัทมีแผนจะออกโครงการระดับบน โดยจะออกโครงการทาวเฮ้าส์ในราคา 20 ล้านบาท และ บ้านเดี่ยวในราคา 50 ล้านบาท เพื่อช่วยกระจายพอร์ตของบริษัทให้ดีขึ้น
อสังหาฯหันเจาะกลุ่มแนวราบ
นายสมบูรณ์ วศินชัชวาล รองกรรมการผู้จัดการ สายงานบัญชีและการเงินบริษัท แผ่นดินทอง พร็อพเพอร์ตี้ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) หรือ GOLD กล่าวว่า ภาพรวมการแข่งขันในตลาดอสังหาริมทรัพย์ ยังมีค่อนข้างสูง ทั้งนี้สิ่งที่พบคือ ผู้เล่น ในตลาดคอนโดมิเนียมเริ่มหันมาทำ บ้านเดี่ยวมากขึ้น เพื่อหนีภาวะคอนโดมิเนียมซบเซา
"สิ่งที่เห็นในตลาดคือ เริ่มเห็นผู้ประกอบการ อสังหาริมทรัพย์ ที่ทำคอนโดมิเนียมนั้น หันมาทำบ้านเดี่ยว เพราะตลาดคอนโดมิเนียมนั้น เริ่มซบเซา ซึ่งเป็นคู่แข่งที่เรามองอยู่ว่าอนาคตจะเป็นอย่างไร ถามว่ากระทบกับเราไหมก็มีบ้าง แต่ในอีกมุมก็ช่วยสร้างความคึกคักมากขึ้น"
กระจายโครงการไปตจว.เน้นอีอีซี
ทั้งนี้ที่เรามองว่า การที่ผู้ประกอบการหันมาทำบ้านเดี่ยวมากขึ้นจะช่วยสร้างความคึกคักให้กับพื้นที่ เพราะหากในพื้นที่ของโครงการมีหลายโครงการติดกัน จะทำให้ดึงความสนใจของผู้ที่ต้องการซื้อบ้านได้ และเกิดการเปรียบเทียบ ซึ่งจะขึ้นอยู่กับคุณภาพของโครงการว่าจะดึงลูกค้าได้มากน้อยเพียงได้
อย่างไรก็ตามกลยุทธ์ในปีนี้ สิ่งที่บริษัทจะดำเนินการคือการกระจายฐานโครงการไปยังต่างจังหวัดมากขึ้น โดยเรามองพื้นที่ในเขตหัวเมืองรวมถึงพื้นที่อีอีซี เพื่อสร้างความคึกคักในพื้นที่ต่างจังหวัดที่มีกำลังซื้อ แน่นอนว่าในพื้นที่ต่างจังหวัดจะมีผู้เล่น ท้องถิ่นที่มีความเชี่ยวชาญพื้นที่มากกว่า รวมถึงอาจมีราคาที่ถูกกว่า แต่สิ่งที่เราจะไป คือการขายในด้านของแบบบ้าน และนวัตกรรมใหม่ๆ
อสังหาฯกลุ่มบนยอดขายยังดี
นายเสริมศักดิ์ ขวัญพ่วง ประธาน เจ้าหน้าที่สายงานการลงทุน บริษัท อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) หรือ ANANDA กล่าวว่า เซ็กเมนต์ในกลุ่มคนเจนเนอเรชั่น C ที่เป็นลูกค้ากลุ่มหลักของบริษัท มีการทำหลากหลายตลาด ซึ่งปีนี้จะเน้นไปที่ตลาดกลุ่มคนทำงาน คนในเมือง ในราคาเฉลี่ย 1.5 แสนบาทต่อตารางเมตร
ที่ผ่านมาจุดเด่นของอนันดาฯ คือทำเลแนวรถไฟฟ้า พร้อมกับราคาขายที่จะต่ำกว่าคู่แข่งในโลเคชั่นเดียวกันทั้งตลาดบน ตลาดกลาง และตลาดล่าง โดยราคาขายต่ำสุดอยู่ที่ 50,000-60,000 บาทต่อตารางเมตร ส่วนแพงสุดจะอยู่ที่ 2-2.5 แสนบาทต่อ ตารางเมตร ซึ่งเท่าที่ดูไม่มีปัญหาในเรื่อง ยอดขายทำสถิติสูงสุดได้ต่อเนื่อง และอัตราส่วนยกเลิกอยู่ในระดับปกติหาก เป็นคอนโดมีเนียมจะอยู่ที่ 3.8 %
ส่วนที่ตลาดลักซ์ชัวรี่ที่ราคาขาย 3-4 แสนบาทต่อตารางเมตรไม่ใช่กลุ่มตลาดที่บริษัทโฟกัส ซึ่งบางโลเคชั่นก็โอเวอร์ซัพพราย เช่น ทองหล่อ ดังนั้นราคาขายในตลาดนี้ในโลเคชั่นเดียวกัน บริษัทจะลงมาเล่นที่ 2-2.5 แสนบาทต่อตารางเมตร เป็นตลาดไฮโลว์มิกซ์แทน
ที่มา : หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น
(
Atom
)
แสดงความคิดเห็น