ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ดีคอนโปรดักส์ จำกัด (มหาชน) หรือ DCON เปิดเผยว่า ในปี 2561 บริษัทจะมีรายได้จากธุรกิจอสังหาริมทรัพย์มากขึ้น เนื่องจากโครงการคอนโดมิเนียม ดีคอน ไพร์ม รัตนาธิเบศร์ จะมีการโอนในช่วงไตรมาส 3-4 ของปี 2561 ซึ่งจะทำให้สัดส่วนรายได้ของอสังหาริมทรัพย์สูงมากขึ้น จากปี 2559 ที่บริษัทมีสัดส่วนรายได้หลักคือธุรกิจก่อสร้าง 92% ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์มีสัดส่วนเพียง 8% และบริษัทคาดว่าสัดส่วนรายได้จะปรับเพิ่มขึ้นมาเป็น 50% ในปี 2562
ปัจจุบันบริษัทมียอดขายคอนโด มิเนียม High Rise โครงการ ดีคอน ไพร์ม รัตนาธิเบศร์ ประมาณ 10% โดยจะเร่งอัดโปรโมชั่นพิเศษในช่วงเดือนมีนาคม 2561 ซึ่งคาดว่าจะเพิ่มยอดขายได้อีก 50% รวมเป็น 60% ได้ ขณะเดียวกันในปี 2561 บริษัทจะเริ่มก่อสร้างคอนโดมิเนียม โครงการ แพรกษา มูลค่าราว 1,500 ล้านบาท ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการขอ EIA คาดจะสามารถลงเสาเข็มได้ในช่วงเดือนเมษายน 2561 และในปี 2564 มีแผนจะเปิด คอนโดมิเนียม High Rise อีก 1 โครงการ ซึ่งปัจจุบันอยู่ระหว่างการหาที่ดิน รวมถึงบริษัทยังมีแผนเปิดคอนโดมิเนียม Low Rise ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการหาที่ดิน
"ภาพรวมธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในปี 2561 เป็นช่วงสุดท้ายที่จะระบายสินค้าเก่า เนื่องจากที่ผ่านมาการก่อสร้างมีจำนวนมาก ทำให้เกิดซัพพลายล้นตลาด โดยการระบายสต๊อกส่วนที่ล้นตลาดออกมานั้นคาดว่าจะหมดลงในช่วง 2562 หลังจากนั้น ธุรกิจก่อสร้างจะกลับมาเติบโตอีกครั้งหนึ่ง"
ส่วนแผนการดำเนินงานในธุรกิจวัสดุก่อสร้างของบริษัทในปี 2561 จะเร่งปรับกลยุทธ์การขาย ด้วยการผลิตสินค้าทดแทนสินค้าบางชนิดที่เสียตลาดไป เช่น แผ่นพื้นสำเร็จรูป (Precast), พื้นกลวง
สำหรับงบลงทุนวางไว้ 2 ส่วน คือลงทุนในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ 2,000 ล้านบาท ซึ่งเป็นเงินที่ได้มาจากการเพิ่มทุน และลงทุนในธุรกิจวัสดุก่อสร้างราว 300 ล้านบาท เพื่อก่อสร้างโรงงานผลิตผนังสำเร็จรูปและแผ่นพื้นสำเร็จรูป (Precast) ที่ลำลูกกา คลอง 12 รวมถึงดัดแปลงเครื่องจักรเก่า เพื่อนำมาผลิตสินค้าทดแทน
นายวิทวัส ระบุด้วยว่า รายได้รวมบริษัทปีนี้ คาดว่าจะเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ หรือเติบโต ประมาณ 10% จากปีก่อน เนื่องจากบริษัทมีรายได้พิเศษเข้ามาจากการขายที่ดิน ซึ่งรายได้ในช่วง 9 เดือนที่ผ่านมา บริษัทมีรายได้ 862.60 ล้านบาท ส่วนกำไร 199.88 ล้านบาท สูงกว่าปี 2559 ทั้งปีที่มีกำไร 138.14 ล้านบาท
เป้า 0.77 บาท
ด้านนักวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์แห่งหนึ่ง กล่าวว่า ฝ่ายวิเคราะห์ให้คำแนะนำ "ซื้อ" หุ้น DCON โดยราคาเป้าหมาย 0.77 บาท หลังในไตรมาส 3/2560 บริษัทมีกำไรอยู่ที่ราว 32.46 ล้านบาท ซึ่งสูงกว่าที่ฝ่ายวิเคราะห์ประมาณการไว้ว่าจะอยู่ที่ 25 ล้านบาท ผลมาจากมีการรับรู้รายการพิเศษจากการขายอสังหาริมทรัพย์เข้าเพิ่มเติม
ทำให้ฝ่ายวิเคราะห์ปรับประมาณการกำไรปี 2560 จากเดิมที่ระดับ 200 ล้านบาท เพิ่มเป็น 240 ล้านบาท และถือเป็นตัวเลขสูงสุดใหม่ของบริษัท เพื่อสะท้อนการเติบโตที่ดีกว่าที่คาดไว้ อีกทั้งฝ่ายวิเคราะห์คาดบริษัทจะมีการจ่ายปันผลงวดสิ้นปี 2560 ในอัตราที่สูงกว่าปีก่อนที่ราว 0.008 บาทต่อหุ้นอย่างชัดเจน เพราะมีการรับรู้ยอดโอนที่ดินบางส่วนของโรงงาน ในจังหวัดลพบุรีเข้าเพิ่มเติม ตลอดจนในแง่ฐานะทางการเงินของบริษัทในปัจจุบันยังถือว่าแข็งแกร่งอย่างมาก และมีสภาพคล่องอยู่ในระดับที่สูง ทำให้ฝ่ายวิเคราะห์จึงมองเป็นโอกาสในการเข้าลงทุนในหุ้น DCON
Baanlumpini
ทางทีมงาน Bestbuycondo
ขอขอบคุณ ที่มา : หนังสือพิมพ์ทันหุ้น
แสดงความคิดเห็น