![](https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEgwSBnApMToF0RM5kcYgTRd9Uu4mTNElIiHjabvVpPRMQC5Ze4PxRABijGUoSJb2aXtzDGP_Il9FbTnMZw-yrDF_ktUk6KxxMh-zDDsRKBOmbVmrDDO4LOUtL5xA4HvynY5R8Yuh5fIgYU/s400/%25E0%25B8%259A%25E0%25B8%25A5%25E0%25B9%258A%25E0%25B8%25AD%25E0%25B8%2581-as-Smart-Object-1.jpg)
ยิ่งใกล้โค้งสุดท้ายก่อนยุบสภาเลือกตั้งมากเข้าไป เท่าไหร่ แกนนำของรัฐบาลประชาธิปัตย์และพรรคฝ่ายค้านอย่างเพื่อไทย ก็ชิงไหวชิงพริบออกนโยบายซื้อใจประชาชนกันแบบชนิดนาทีต่อนาที
ก่อนหน้านี้ไม่นาน ทีมที่ปรึกษาเศรษฐกิจเพื่อไทยแพลมออกมาว่าจะมีการประกาศนโยบายซื้อบ้านหลัง แรกและรถคันแรก นำมาหักลดหย่อนภาษีได้ ทำเอาคนฟังฮือฮาอ้าปากหวอยังไม่ทันไร กรณ์ จาติกวณิช รมว.คลัง และอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี แกนนำของพรรคประชาธิปัตย์ ก็ไม่ยอมน้อยหน้า ประกาศนำนโยบายกู้ซื้อบ้านหลังแรกจะได้รับดอกเบี้ย0% ยาวถึง 2 ปี โดยตั้งวงเงินให้กู้สูงถึง 5 หมื่นล้านบาท ถือเป็นการประกาศนโยบายมัดใจคนอยากมีบ้าน เพียงแค่ 1 วัน ก่อนพรรคเพื่อไทยจะแถลงนโยบายสู้เลือกตั้งใหม่เท่านั้น เรียกว่าโดนใจคนกันทั่วประเทศ เพราะคนไทยทุกคนนั้นอยากมีบ้านกันทั้งนั้นยิ่งปัจจุบันดอกเบี้ยแพงแสนแพง การโหมประโคมคิดดอกเบี้ย 0% ยาว 2 ปี หลังจากนั้นคิดดอกเบี้ยลูกค้ารายย่อยชั้นดีลบ 0.50% สำหรับคนทั่วไป ส่วนข้าราชการนั้นปีที่ 3 คิดดอกเบี้ยลูกค้ารายย่อยชั้นดีลบ 1% นั้นต้องบอกว่า ถูกสุดๆ ในระบบ ถูกจนไม่มีธนาคารใดกล้าเสนอมาตรการเช่นนี้ออกมาแน่ เรื่องนี้ไม่ได้สำคัญอยู่ที่ใครคิดก่อนหลัง แต่อยู่ที่จังหวะชิงเหลี่ยมเฉือนคมในการออกมาตรการ และความเป็นไปได้ของมาตรการที่จะโดนใจประชาชนได้มากกว่ากัน
หากว่ากันตามเนื้อผ้าแล้ว ต้องบอกว่านโยบายบ้านดอกเบี้ย 0% ของรัฐบาลข่มซื้อบ้านหักลดหย่อนภาษีของพรรคฝ่ายค้านได้อยู่หมัด
แม้ว่ารายละเอียดการซื้อบ้าน ดอกเบี้ย 0%ยังไม่ออกมาเป็นที่เรียบร้อย แต่หลักใหญ่ของงานนี้ จะให้ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.)ปล่อยกู้ซื้อบ้านในราคาไม่เกิน 3 ล้านบาท โดยงานนี้พ่วงลดหย่อนค่าธรรมเนียมการโอนและจดจำนองให้อีก 2%
นั่นหมายความว่า มาตรการช่วยแบ่งเบาภาระผู้ซื้อบ้านตั้งแต่เริ่มทำสัญญา เพราะหากซื้อบ้านหลังละ 1 ล้านบาท ก็ประหยัดเงินค่าธรรมเนียมการโอนและจดจำนองถึง 2 หมื่นบาท
คนซื้อบ้าน 2 ล้านบาท ก็ประหยัดเงินทันที 4 หมื่นบาท และซื้อบ้าน 3 ล้าน ก็ประหยัดได้ถึง 6 หมื่นบาท ทำให้โอกาสได้บ้านก็มากขึ้น ผู้คนก็เหนื่อยน้อยลง
ขณะที่ภาระการผ่อนก็ถูกแสนถูก เพราะดอกเบี้ย 0% ใน 2 ปีแรก หากคิดจากอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ซื้อบ้านของ ธอส. ขณะนี้อยู่ที่ประมาณ 6% นั้น หมายความว่า หากไม่มีมาตรการบ้านดอกเบี้ย 0% ของรัฐบาล และต้องกู้ซื้อบ้านตามปกติ การกู้ซื้อบ้านทุก 1 ล้านบาทจะต้องเสียดอกเบี้ย 6 หมื่นบาทต่อปี เงินเฉลี่ยปีละ 6 หมื่นบาท จะถูกนำไปคูณกับระยะเวลาที่ผ่อนชำระ 30 ปี ก็ตก 1.8 ล้านบาทจากนั้นนำมารวมกับเงินต้น ถ้ากู้ 1 ล้านบาท ทั้งต้นทั้งดอกก็ปาเข้าไป 2.8 ล้านบาท เมื่อนำมาหารเฉลี่ยรายเดือน 360 เดือน ก็ผ่อนเดือนละ 7,777 บาทเศษ
แต่เมื่อรัฐบาลผุดบ้านหลัง แรกดอกเบี้ย 0%เป็นเวลา 2 ปี ทำให้ภาระดอกเบี้ยของคนกู้ซื้อบ้านลดฮวบ เพราะหากซื้อบ้านหลังละ 1 ล้านบาท ช่วยลดภาระดอกเบี้ยได้เฉลี่ย 1.2 แสนบาท
คนซื้อบ้านหลังละ 2 ล้านบาท ลดดอกเบี้ยได้2.4 แสนบาท ขณะที่ซื้อบ้าน 3 ล้านบาท ประหยัดดอกเบี้ยได้ถึง 3.6 แสนบาท
เมื่อนำมารวมกับค่าธรรมเนียมที่ได้ ยกเว้นมาตรการ บ้านหลังแรกดอกเบี้ย 0% ทำให้ประหยัดเงินในกระเป๋าผู้ซื้อบ้านหลังแรกได้ถึง1.4-4.2 แสนบาท มาตรการนี้จึงถือว่าเย้ายวนใจผู้ที่ต้องการซื้อบ้านหลังแรกอย่างมาก และหาได้ยากที่จะมีของดีอย่างนี้มาบ่อยๆ
ยิ่งเมื่อเทียบกับการซื้อบ้านหลัง แรกแล้วนำมาหัก ลดหย่อนภาษีได้ของฝ่ายค้าน ซึ่งผู้ซื้อบ้านระดับไม่เกิน 3 ล้านบาท เป็นคนชั้นกลาง รายได้ไม่มาก ส่วนใหญ่ก็ไม่ได้เสียภาษี ทำให้คนกลุ่มนี้ไม่ได้ประโยชน์อะไรจากมาตรการของฝ่ายค้านเลย
เมื่อผลออกมาเป็นเช่นนี้ ทำให้การชิงคะแนนเสียงประชาชนคนออกเสียงจากมาตรการนี้ ต้องให้คะแนนว่ารัฐบาลกินขาด เพราะนอกจากทำให้คนที่ต้องการซื้อบ้านหลังแรกร่วม 2-5 หมื่นคน บวกคนข้างกายอีก 1-2 คน งานนี้อย่างน้อยมีคนได้เบากระเป๋าจากการซื้อบ้านหลังแรกร่วม 5 หมื่น-1 แสนคน ได้ชื่นใจ
แถมยังเป็นการกระตุ้นภาคธุรกิจที่ เกี่ยวข้องกับ อสังหาริมทรัพย์ ที่มีแรงขับเคลื่อนเศรษฐกิจสูงให้ไชโยโห่ฮิ้วเพราะมีหลายธุรกิจที่ได้ อานิสงส์ไปเต็มๆรัฐบาลได้ทั้งคะแนนเสียงจากคนซื้อบ้าน และผู้ประกอบการขายบ้านที่ส่งผลให้การขายบ้านกลับมาร้อนแรงอีกครั้ง
มาตรการบ้านหลังแรกดอก 0% ของรัฐบาลยังส่งผลให้ธนาคารพาณิชย์นั่งไม่ติด เพราะทำให้สะเทือนสินเชื่อบ้านไปชั่วขณะเหมือนกัน เพราะหากมาตรการนี้ออกมา ย่อมทำให้คนแห่มากู้ธอส. จนลืมดอกเบี้ยเงินกู้บ้านจากธนาคารพาณิชย์ไปเลย เพราะตอนนี้เต็มที่ก็ดอกเบี้ย 0%เป็นเวลา 6 เดือนเท่านั้น
จนทำให้มีธนาคารพาณิชย์บางรายออก มาบอกฝากถึง รัฐบาล ว่าน่าจะเปิดให้ธนาคารพาณิชย์รวมแคมเปญนี้ด้วย เพื่อรักษาฐานลูกค้าของธนาคารไว้ เพราะดีดลูกคิดแล้วดอกเบี้ย 0%เป็นเวลา 2 ปี ทำให้กำไรแบงก์สะเทือน หากรัฐบาลเปิดให้ธนาคารพาณิชย์เข้ามาร่วมวงปล่อยกู้ด้วย คาดว่าจะทำให้ผู้กู้ซื้อบ้านได้ประโยชน์อีกจำนวนมาก และกระจายทั่วถึงประเทศมากขึ้น
มาตรการบ้านดอกเบี้ย 0% จึงถือว่าครบเครื่องโดนใจคนซื้อบ้าน ถูกใจผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ และยังเป็นแม่เหล็กดึงดูดให้แบงก์พาณิชย์เข้ามาร่วมปล่อยกู้ได้อีก ถ้าเทียบกับเงินที่เสียไปจำนวนไม่มาก เพราะหากคิดดอกเบี้ยของ ธอส. จากการปล่อยกู้ 2 ปี ดอกเบี้ย 0%จะเสียรายได้ไปแค่ 500-1,000 กว่าล้านบาทเศษเท่านั้น ในทางการเมืองต้องถือว่าลงทุนน้อยแต่ได้กำไรงาม
จะว่าไปแล้วก็ถือเป็นสูตรความสำเร็จ ของรัฐบาลประ ชาธิปัตย์ ที่พยายามออกนโยบายเอาใจประชาชนให้ได้ในวงกว้างมากที่สุด ดังจะเห็นได้จากนโยบายแก้หนี้นอกระบบ 1 ล้านคน ช่วยลดภาระดอกเบี้ยคนรากหญ้าได้ถึง 4,000-5,000 ล้านบาทต่อปี หลังจากนั้นก็มีการต่อยอดสร้างหมอหนี้อีก 2 แสนคน ให้ความรู้ด้านการเงินแก่ชาวบ้าน โดยหมอหนี้ได้ผลตอบแทนเดือนละ500 บาท ทำให้ลูกหนี้เบาตัว หมอหนี้มีรายได้เพิ่มรัฐบาลประชาธิปัตย์รับคะแนนไปเต็มๆ
ต้องยอมรับว่า เวลาที่ผ่านมาตั้งแต่แก้หนี้นอกระบบ เรียนฟรี รักษาฟรี ประกันรายได้ มาถึงบ้านดอกเบี้ย 0% และในอนาคตยังมีเพิ่มค่าแรงอีก 25% ที่จะเริ่มกดปุ่มให้มีผลเดือน ก.ค.นี้ก่อนลงคะแนนหย่อนบัตรไม่กี่วัน ส่งผลให้รัฐบาลได้คะแนนตุนเพิ่มได้มากขึ้นจนฝ่ายค้านนั่งแทบไม่ติด…เพราะ อาวุธเช่นนี้ ยิงออกมาทันทีมีผลทันที…ดีกว่าแจกเงินร้อยสองร้อย
ที่มา: Bestbuycondo
ที่มา : หนังสือพิมโพสทูเดย์
แสดงความคิดเห็น