ตลาดอสังหาชะลอตัวหนัก ผู้ซื้อไม่ยอมโอนบ้าน-คอนโด รออานิสงส์ดอกเบี้ย 0% นาน 5 ปี


3 สมาคมอสังหาริมทรัพย์ วอนรัฐบาลเร่งออกนโยบายบ้านหลังแรก อ้างตลาดชะลอตัวหนัก ผู้บริโภคไม่ยอมโอนบ้าน เพราะรอรับอานิสงส์มาตรการ 0% 5 ปี คาดทั้งปี 2554 ยอดโอนลด 25-30% แนะวางกรอบคำนิยาม "บ้านหลังแรก" ให้ชัดเจน เพื่อป้องกันปัญหากู้ไม่ผ่าน ติงไม่ควรช่วยเหลือบ้านราคา 4 ล้านบาท เพราะคนซื้อมีรายได้สูง ให้ไปชดเชยภาษีแทน ส่วนขึ้นค่าแรง 300 บาทขอปรับแบบค่อยเป็นค่อยไป

นายอิสระ บุญยัง นายกสมาคมธุรกิจบ้านจัดสรร เปิดเผยว่า ตลาดที่อยู่อาศัยนับจากต้นปี 2554 เป็นต้นมา มีการเปิดตัวโครงการเติบโตอย่างมาก โดยเฉพาะตัวเลขในช่วง 7 เดือนที่ผ่านมาเปิดตัวไปกว่า 50,000 หน่วย หรือเพิ่มขึ้นประมาณ 20% เมื่อเทียบกับปี 2553 ทั้งปีเปิดโครงการเพียง 50,000 หน่วย เนื่องจากในปีที่แล้วมีปัญหาความไม่สงบทางการเมืองในช่วงครึ่งปีแรก ส่งผลให้การเปิดตัวโครงการเกิดขึ้นในช่วงครึ่งหลังของปีจึงทำให้ยอดเปิดตัวน้อย ในขณะที่ปีนี้การเปิดตัวเริ่มค่อนข้างมาตั้งแต่ต้นปีเลยทีเดียว

ส่วนยอดขายของทุกบริษัทมีการเติบโตไม่น้อยกว่า 10% แต่ยอดรับรู้รายได้ปรับลดลงเนื่องจากเกณฑ์มาตรฐานบัญชีใหม่ที่บริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์จะรับรู้รายได้เมื่อโอนกรรมสิทธิ์ อย่างไรก็ตาม หากพิจารณาจากตัวเลขยอดโอนกรรมสิทธิ์ กลับพบว่าปรับลดลง 33% ยอดบ้านใหม่จดทะเบียนลดลง 19% ส่วนยอดสินเชื่อที่อยู่

อาศัยปล่อยใหม่ลดไป 12%

ทั้งนี้ ในช่วงเดือนพฤษภาคม-มิถุนายนที่ผ่านมา รัฐบาลชุดที่แล้วมีนโยบายบ้านหลังแรกดอกเบี้ย 0% นาน 2 ปี ได้กระตุ้นในตลาดในช่วง 2 เดือนดังกล่าวเติบโตขึ้นมาก หลังจากนั้นเป็นช่วงหาเสียงเลือกตั้งและเมื่อผลการเลือกตั้งพรรคเพื่อไทยได้คะแนนเสียงสูงสุด แม้ว่าผู้บริโภคจะเกิดความเชื่อมั่นในภาวะเศรษฐกิจ แต่ก็ไม่ได้ทำให้ตัวเลขภาคอสังหาริมทรัพย์ดีขึ้น กลับชะลอตัวจนเกิดภาวะสุญญากาศขึ้น เนื่องจากผู้บริโภคต้องการรอรับประโยชน์จากมาตรการ 0% 5 ปี ซึ่งจะส่งผลให้ปีนี้ทั้งปียอดโอนกรรมสิทธิ์ลดลงไม่น้อยกว่า 25-30% โดยยอด 6 เดือนมีจำนวนแค่ 73,000 หน่วย

"ปัจจุบันรัฐบาลยังไม่มีความชัดเจนของนโยบายบ้านหลังแรก จะมีรายละเอียดปลีกย่อยอย่างไร ข้อกำหนด ข้อยกเว้นต่างๆ และที่สำคัญจะเริ่มมีผลบังคับใช้เมื่อใด เชื่อว่านายกรัฐมนตรีทราบปัญหาของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เป็นอย่างดี เพราะเคยมีประสบการณ์มาก่อน หากมาตรการออกมาล่าช้า จะเกิดผลกระทบต่อธุรกิจ เพราะทุกคนรอมาตรการ ไม่แน่ว่าคนที่ขอดอกเบี้ย 0% 2 ปี ของรัฐบาลชุดที่แล้ว แต่ยังไม่ได้โอนอาจะยกเลิกและไปรอใช้ 0% 5 ปีแทน" นายอิสระ กล่าวและว่า

เพื่อเป็นการสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ผู้บริโภค และไม่ทำให้ตลาดเกิดภาวะสุญญากาศ รัฐบาลควรรีบประกาศให้ชัดเจนไปเลยว่าจะเริ่มโครงการเมื่อใด เพราะหากไม่ออกมาตรการคนก็ไม่ซื้อบ้าน ส่วนมาตรการหักลดหย่อนภาษีจากดอกเบี้ยสินเชื่อบ้านนั้นจะเริ่มปี 2555 ก็ได้ เพราะคนจะไปขอลดหย่อนภาษีในช่วงก่อนสิ้นเดือนมีนาคมอยู่แล้ว

นอกจากนี้รัฐบาลควรจัดลำดับราคาบ้านในการสนับสนุนผู้ที่มีรายได้น้อยหรือราคาบ้านไม่เกิน 1.5 ล้านบาทนั้น ควรได้รับการสนับสนุนมาก ส่วนผู้ที่มีรายได้มากก็ไปสนับสนุนในเรื่องของการชดเชยภาษีซึ่งไม่ต้องใช้งบประมาณชดเชย หากช่วยบ้านราคา 4 ล้านบาท เห็นว่าไม่จำเป็น เพราะผู้ที่จะซื้อบ้านราคาดังกล่าวได้จะต้องมีรายได้ไม่ต่ำกว่า 1 แสนบาทต่อเดือน ถือว่าเป็นผู้ที่มีรายได้สูงไม่จำเป็นที่รัฐบาลต้องไปให้การสนับสนุน หรือควรให้การสนับสนุนเพียง 1.5 ล้านบาทแรกเท่านั้น (นโยบาย 0% 2 ปีวงเงิน 25,000 ล้านบาท รัฐบาลชุดที่แล้วต้องใช้งบประมาณในการชดเชยถึง 400 ล้านบาท) เพราะรัฐบาลมีนโยบายหลักลดหย่อนภาษี 5 แสนบาท จากดอกเบี้ยสินเชื่อบ้าน และผู้ที่จะได้ประโยชน์จากนโยบายนี้สูงสุดคือผู้ที่เสียภาษีตั้งแต่ 5 ล้านบาทขึ้นไป และซื้อบ้านตั้งแต่ 8 ล้านบาทขึ้นไป

นอกจากนี้ยังต้องการให้รัฐบาลให้คำนิยาม หรือวางกรอบของคำว่า "บ้านหลังแรก" ว่าเป็นอย่างไร เพราะเป็นปัญหามากในโครงการบ้านหลังแรกของรัฐบาลชุดที่แล้ว บางคนเช่าบ้านอยู่มีชื่อเป็นเจ้าบ้าน แต่ไม่ได้เป็นเจ้าของก็กู้ไม่ได้ ซึ่งสมาคมอสังหาฯ มีคำนิยามของบ้านหลังแรกว่า "ที่อยู่อาศัยสำคัญ" นั้นหมายถึงการเป็นเจ้าของบ้านและมีซื่ออยู่ในทะเบียนบ้าน ครั้งที่แล้วนโยบาย 0% 2 ปี ผู้ประกอบการที่ผลิตบ้านสูงกว่า 3 ล้านบาท หันไปจับมือกับธนาคารพาณิชย์เพื่อออกแคมเปญ 0% มาแข่งขันกับธนาคารอาคารสงเคราะห์เพื่อรักษายอดขายและมาร์เก็ตแชร์ของตนเอง แต่ครั้งนี้ดอกเบี้ย 0% นาน 5 ปี เชื่อว่าจะไม่มีเอกชนรายใดหรือธนาคารพาณิชย์ออกแคมเปญมาสู้อย่างแน่นอน เพราะต้องใช้เงินชดเชยจำนวนมากไม่คุ้ม

ส่วนนโยบายปรับขึ้นค่าแรง 300 บาทนั้น ภาคธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ไม่ได้คัดค้าน แต่มีคำถามว่า รัฐบาลจะรื้อระบบไตรภาคีหรือไม่ และต้องการให้ดำเนินการแบบค่อยเป็นค่อยไป

"ไม่ว่าใครจะชอบหรือไม่ชอบรัฐบาลชุดนี้ แต่ก็ควรให้รัฐบาลได้มีโอกาสทำงานและแสดงความสามารถไปก่อน ทั้ง 3 สมาคมจะไม่ทำหนังสือถึงนายกรัฐมนตรีหรือเรียกร้องให้เร่งรัดออกมาตรการที่เคยหาเสียงไว้ เพราะในช่วงนี้หลายกลุ่มหลายฝ่ายต่างออกมาทวงสัญญากันมากแล้ว" นายอิสระ กล่าวในที่สุด

ที่มา : Bestbuycondo.com
ที่มา : หนังสือพิมพ์ดอกเบี้ยธุรกิจ

แสดงความคิดเห็น

Designed by OddThemes | Distributed by Gooyaabi Templates